ทะเล VS ภูเขา แคมป์ปิ้งที่ไหนช่วงไหนดี?

การกางเต็นท์แคมป์ปิ้งเป็นกิจกรรมที่ให้ประสบการณ์สุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการตื่นมาพร้อมเสียงคลื่นริมชายหาด หรือการนอนชมดาวท่ามกลางอากาศเย็นบนภูเขา แต่การเลือกสถานที่และช่วงเวลาที่เหมาะสมก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ทริปแคมป์ปิ้งของคุณสมบูรณ์แบบ มาดูกันว่าการแคมป์ปิ้งที่ทะเลและภูเขาแตกต่างกันอย่างไร และช่วงไหนที่เหมาะสมที่สุดแคมป์ปิ้งริมทะเล: สัมผัสสายลมและเกลียวคลื่น

แคมป์ปิ้งริมทะเล สัมผัสสายลมและเกลียวคลื่น

การกางเต็นท์ริมชายหาดนั้นให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการพักในรีสอร์ทหรือโรงแรมอย่างสิ้นเชิง เมื่อคุณได้นอนบนผืนทรายภายใต้ผืนฟ้าดาวเหนือทะเล คุณจะได้สัมผัสกับความสงบและเสียงคลื่นที่โหมกระหน่ำเข้าหาฝั่งอย่างไม่ขาดสาย เป็นเสียงธรรมชาติที่ทำให้จิตใจสงบและหลับสบาย การตื่นขึ้นมาในยามเช้าพร้อมกับแสงอาทิตย์แรกที่ทอประกายเหนือเส้นขอบฟ้าและผืนน้ำสีครามนั้นเป็นภาพที่สวยงามเกินบรรยาย คุณสามารถออกไปเดินเล่นริมชายหาดในขณะที่น้ำทะเลเย็นๆ ซัดเข้ามาแตะเท้า หรือนั่งจิบกาแฟยามเช้าพร้อมชมวิวทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา

ช่วงเวลาที่ควรไป พฤศจิกายน – เมษายน (หน้าหนาวถึงปลายหน้าร้อน)

เวลาที่ดีที่สุดสำหรับการแคมป์ปิ้งริมทะเล คือช่วงหน้าหนาวถึงปลายหน้าร้อนเพราะ

• ท้องฟ้าโปร่ง เมฆสวย เหมาะแก่การถ่ายภาพ
• คลื่นลมสงบ ทะเลใส ปลอดภัยสำหรับการเล่นน้ำ
• กลางคืนอากาศเย็นสบาย ไม่หนาวเกินไป
• มีลมทะเลช่วยบรรเทาความร้อนในช่วงกลางวัน
• ฝนตกน้อย เหมาะกับการกางเต็นท์

ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง พฤษภาคม – ตุลาคม

ในช่วงหน้าฝน การแคมป์ปิ้งริมทะเลอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเพราะ

• มีโอกาสเจอพายุฝนและมรสุมสูง
• คลื่นลมแรง อาจเป็นอันตรายต่อเต็นท์และอุปกรณ์แคมป์ปิ้ง
• ชายหาดมักไม่มีต้นไม้ใหญ่ให้กำบัง ทำให้ไม่มีที่หลบลมหรือฝน
• น้ำทะเลขุ่น ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ

แคมป์ปิ้งบนภูเขา ดื่มด่ำกับความเงียบสงบและธรรมชาติ

การแคมป์ปิ้งบนภูเขาให้ประสบการณ์ที่แตกต่างจากทะเลอย่างสิ้นเชิง เมื่อคุณกางเต็นท์ท่ามกลางป่าเขา สิ่งแรกที่คุณจะสัมผัสได้คือความสงบและเงียบสงัดที่แทบจะไม่มีในชีวิตประจำวัน ได้ยินเพียงเสียงใบไม้ไหวตามแรงลม เสียงน้ำไหลจากลำธารใกล้ๆ และเสียงนกร้องยามเช้า อากาศบนที่สูงมีความบริสุทธิ์และเย็นสบาย ทำให้การหายใจลึกๆ เป็นความสุขอย่างเรียบง่าย

ช่วงเวลาที่ควรไป กรกฎาคม – กุมภาพันธ์

ช่วงเข้าหน้าฝนถึงหน้าหนาวเป็นเวลาที่เหมาะกับการแคมป์ปิ้งบนภูเขาเพราะ

• ป่าไม้เขียวชอุ่ม สดชื่น หลังผ่านหน้าแล้ง
• โอกาสได้เห็นทะเลหมอกในยามเช้าสูง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว
• อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนหน้าร้อน
• ช่วงหน้าหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) อากาศเย็นมาก เหมาะกับการนั่งผิงไฟ
• น้ำตกและลำธารมีน้ำไหลชัดเจน สวยงาม

ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง มีนาคม – มิถุนายน

ในช่วงหน้าร้อน การแคมป์ปิ้งบนภูเขาอาจมีความเสี่ยงเพราะ

• อากาศแห้งและร้อนจัด
• พืชพรรณธรรมชาติแห้งเหี่ยว ไม่สวยงาม
• มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดไฟป่า
• แหล่งน้ำธรรมชาติอาจแห้งขอด
• กลางคืนมีแมลงรบกวนมากกว่าฤดูอื่น

การแคมป์ปิ้งทั้งที่ทะเลและภูเขาต่างก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว การเลือกขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและฤดูกาล

หากคุณวางแผนเดินทางช่วงหน้าหนาว (พ.ย.-ก.พ.) สามารถเลือกได้ทั้งทะเลและภูเขา

หากเป็นช่วงหน้าร้อน (มี.ค.-มิ.ย.) ทะเลจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

หากเป็นช่วงหน้าฝน (ก.ค.-ต.ค.) ภูเขาจะให้ประสบการณ์ที่ดีกว่า

ไม่ว่าจะเลือกแคมป์ปิ้งที่ไหน อย่าลืมเคารพธรรมชาติ เก็บขยะกลับ และเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมเพื่อความปลอดภัยและความประทับใจที่สุดนะครับ

www.camponeoutdoor.com ยังมีบทความดีๆ รีวิวสินค้าใหม่ๆ กิจกรรมข่าวสารเกี่ยวกับวงการแคมป์ปิ้ง มากมาย และยังสามารถซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ ได้อีกหนึ่งช่องทางนะครับ

• Facebook
• Twitter
• Line